" สายตาสั้นเทียม "

 รู้ได้อย่างไรเมื่อมีอาการสายตาสั้นเทียม

อาการของสายตาสั้นเทียมและสายตาสั้นจริง ส่วนที่เหมือนกันคือมองไกลไม่ชัดทั้งคู่แต่สำหรับสายตาสั้นเทียมนั้นมีข้อสังเกตคือมีอาการมองไม่ชัดค่อนข้างจะทันที เช่น ตามัวมา 1 อาทิตย์ ขณะที่สายตาสั้นจริงจะค่อยๆ มองไม่ชัดมานาน นอกจากนี้สายตาสั้นเทียม จะยังมีอาการปวดตาปวดหัว บางครั้งมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย โดยจะมีอาการหลังจากที่ใช้สายตามากๆ หรือนานๆ จะมีอาการตามัวมากขึ้น นอกจากนี้การวัดสายตาแล้วได้ค่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่แน่นอน หรือเมื่อวัดสายตาหลังหยอดยาขยายม่านตาแล้วพบว่าค่าสายตาสั้นน้อยกว่าค่าที่วัดได้ก่อนหยอดยาขยายม่านตา หรือวัดสายตาแล้วไม่มีสายตาสั้นเลย นี่ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่ามีอาการสายตาสั้นเทียมด้วย ฉะนั้นหากสงสัยว่าเรามีอาการสายตาสั้นเทียมหรือไม่ ทำไมใส่แว่นแล้วยังเห็นไม่ชัด หรือใส่แล้วมีอาการปวดหัวร่วมด้วย การพบจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจรักษาเพื่อดูแลสุขภาพตา จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย

 ทำอย่างไรจึงจะไม่มีอาการสายตาสั้นเทียม

การดูแลสุขภาพดวงตาหรือป้องกันภาวะสายตาสั้นเทียมในผู้ใหญ่ ควรพักสายตาเมื่อต้องทำงานแล้วเพ่งดูอะไรใกล้ๆนานๆไม่ว่าจะเป็นการใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน โดยควรพักสายตาทุกๆ 30 นาทีด้วยการมองไกลๆ หรือไม่ต้องจ้องอะไรก็ได้ นาน 5 นาที สำหรับการป้องกันในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีไม่แนะนำให้ใช้อุปกรณ์จำพวกสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์เลย ส่วนเด็กที่โตกว่า 2 ปี ไม่ควรใช้มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน

 เมื่อเด็กๆมีอาการเหล่านี้

เด็กที่มีปัญหาทางด้านสายตา มักไม่รู้ตัวเองว่ามีปัญหาทั้งๆที่เห็นไม่ชัด เนื่องจากเขาคิดว่าคนทุกคนก็เห็นอย่างที่เขาเห็น  ดังนั้นผู้ปกครองและครูจึงมีหน้าที่ในการสังเกตเด็กๆว่ามีปัญหาทางสายตาหรือไม่เพราะการแสดงออกบางอย่างของเด็กๆอาจเกิดจากปัญหาสายตาของเด็กๆก็เป็นได้ ยกตัวอย่างเช่น

1. เด็กหยีตามอง ขมวดคิ้วหรือชอบขยี้ตา
2. เมื่อให้จดงานบนกระดาน มักจะต้องลอกจากเพื่อนคนข้างๆ
3. ไม่สนใจสิ่งที่ครูสอน
4. ไม่ชอบไปวิ่งเล่นกับเพื่อน ชอบทำกิจกรรมที่ไม่เคลื่อนไหวถ้าหากปัญหาทางด้านสายตาของเด็กๆถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำการแก้ไข อาจส่งผลเสียทั้งต่อตัวเด็กและต่อสังคม ยกตัวอย่างเช่น

      2. ไม่ตั้งใจเรียน เพราะเรียนไม่ทัน

      3. ไม่สนใจที่ครูสอน เพราะมองกระดานดำไม่เห็น

      4. ขาดความมั่นใจ เนื่องจากคนอื่นเรียนได้แต่ตนทำไม่ได้

      5. เด็กอาจไม่อยากเรียน หรือหนีเรียนในที่สุด เนื่องจากตัวเองเรียนได้ไม่ดีดังนั้นหากเด็กๆมีอาการเหล่านี้ผู้ปกครองควรพาเด็กๆไปตรวจวัดสายตาเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาตั้งแต่เนิ่นๆ